7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไฟฟ้าสีเขียว

ในยุคที่คำว่า “พลังงานสะอาด” และ “ไฟฟ้าสีเขียว (Green Power)” กลายเป็นเทรนด์สำคัญของโลก หลายองค์กรและโรงงานเริ่มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมี ความเข้าใจผิดหลายประการ ที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ความเข้าใจผิดที่ 1: “ไฟฟ้าสีเขียว = พลังงานโซลาร์เท่านั้น”

ความจริงแล้วไฟฟ้าสีเขียวไม่ได้หมายถึงพลังงานจากแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ เช่น

  • พลังงานลม (Wind)
  • พลังงานชีวมวล (Biomass/Biogas)
  • พลังน้ำ (Hydro)
  • พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal)

ทั้งหมดนี้จัดอยู่ในหมวด พลังงานสะอาด ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

ความเข้าใจผิดที่ 2: “ใช้ไฟฟ้าสีเขียวแพงกว่าแน่นอน”

ราคาของไฟฟ้าสีเขียวในปัจจุบันลดลงอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และต้นทุนอุปกรณ์อย่างแผงโซลาร์หรือกังหันลมลดลงต่อเนื่อง

นอกจากนี้การทำสัญญา PPA (Power Purchase Agreement) ช่วยให้สามารถล็อกราคาคงที่ระยะยาวได้ และยังลดความผันผวนของต้นทุนพลังงานในอนาคต

ความเข้าใจผิดที่ 3: “ใช้ไฟฟ้าสีเขียวไม่มีผลต่อธุรกิจโดยตรง”

ในความเป็นจริง การใช้ไฟฟ้าสะอาดมีผลโดยตรงต่อธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ส่งออก เพราะ:

  • ลดต้นทุน CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism)
  • สร้างภาพลักษณ์ ESG ที่แข็งแรง
  • เป็นข้อได้เปรียบเมื่อต้องแข่งขันในตลาดยุโรปและเอเชียที่เน้นความยั่งยืน

ความเข้าใจผิดที่ 4: “ซื้อใบรับรอง REC ก็เท่ากับใช้ไฟฟ้าสะอาดแล้ว”

ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) เป็นหลักฐานว่าองค์กรสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด แต่ไม่ได้หมายความว่าไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานนั้นมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนโดยตรง

หากองค์กรต้องการพิสูจน์ว่าตน “ใช้ไฟฟ้าสะอาดจริง” จำเป็นต้องมี Traceability ที่ตรวจสอบได้ และควรเลือกโครงการที่มี Additionality คือสร้างแหล่งผลิตใหม่เพิ่มเติมให้ระบบไฟฟ้า

ความเข้าใจผิดที่ 5: “พลังงานสะอาดไม่เสถียร ใช้ในอุตสาหกรรมไม่ได้”

เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้พลังงานสะอาดมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผสานหลายแหล่ง เช่น

  • Solar + Wind สำหรับผลิตไฟฟ้า
  • Geothermal สำหรับไฟฟ้าและไอน้ำ 24 ชั่วโมง
  • Battery Storage สำหรับสำรองพลังงาน
    ทำให้โรงงานสามารถใช้พลังงานสะอาดได้ต่อเนื่องไม่ต่างจากไฟฟ้าจากฟอสซิล

ความเข้าใจผิดที่ 6: “พลังงานสีเขียวเหมาะกับบริษัทใหญ่เท่านั้น”

ปัจจุบันมีโซลูชันไฟฟ้าสะอาดสำหรับทุกขนาดธุรกิจ เช่น

  • Solar Rooftop สำหรับ SME
  • PPA สำหรับโรงงานขนาดกลาง–ใหญ่
  • Carbon Credit Trading สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการชดเชยคาร์บอน
    ดังนั้น แม้เป็นธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถเริ่มต้นใช้พลังงานสะอาดได้เช่นกัน

ความเข้าใจผิดที่ 7: “ใช้ไฟฟ้าสีเขียวเป็นแค่ภาพลักษณ์”

องค์กรที่ใช้พลังงานสะอาดไม่ได้แค่ “ดูดี” แต่ยังได้รับผลลัพธ์ที่จับต้องได้ เช่น

  • ลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว
  • ได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการส่งเสริมจากรัฐ
  • เพิ่มคะแนน ESG และความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

สรุป

ไฟฟ้าสีเขียวคือหัวใจของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และเป็น “เครื่องมือทางธุรกิจ” ที่มีทั้งความคุ้มค่าและคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม ความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้องค์กรไทยเดินหน้าได้มั่นคงทั้งในด้าน การแข่งขัน – ความยั่งยืน – ภาพลักษณ์แบรนด์