จ่ายค่าไฟถูกลงได้ไหม? รู้จัก “อัตราค่าไฟ” แบบง่าย + วิธีเลือกพลังงานให้คุ้ม

หลายคนสงสัยว่า “ทำไมค่าไฟถึงแพงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ใช้เท่าเดิม?” หรือ “สามารถเลือกพลังงานที่คุ้มค่ากว่าได้ไหม?”

คำตอบคือ “ได้” — ถ้าเราเข้าใจโครงสร้างของ อัตราค่าไฟฟ้า (Electricity Tariff) และรู้วิธีปรับพฤติกรรมการใช้พลังงาน รวมถึงเลือกแหล่งไฟฟ้าที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเรา

เข้าใจโครงสร้าง “อัตราค่าไฟฟ้า” แบบง่าย

ค่าไฟฟ้าที่เราจ่ายให้กับการไฟฟ้ามีองค์ประกอบหลัก ๆ ดังนี้

องค์ประกอบความหมายหมายเหตุ
ค่าไฟฟ้าฐาน (Base Tariff)ค่าผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่คงที่ในระยะยาวปรับทุก 4–6 เดือน
ค่า Ft (Fuel Adjustment Charge)ค่าผันแปรตามราคาน้ำมันและเชื้อเพลิงมีผลต่อราคาไฟจริงที่จ่าย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)7% ของราคารวมทั้งหมด

สรุปง่าย ๆ: ค่า Ft คือ “ตัวแปรสำคัญ” ที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นในช่วงราคาพลังงานโลกผันผวน เช่น น้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติขึ้นราคา

ประเภทของอัตราค่าไฟฟ้าในไทย

สำหรับครัวเรือนทั่วไป:

  • แบบอัตราคงที่ (Flat Rate): จ่ายตามหน่วยที่ใช้ เช่น 4.2 บาท/หน่วย
  • แบบขั้นบันได (Progressive Rate): ยิ่งใช้มาก หน่วยละยิ่งแพง

สำหรับภาคธุรกิจ/โรงงาน:

  • แบบ TOU (Time of Use): ค่าไฟแตกต่างตามช่วงเวลา
    • On-Peak: ช่วงกลางวัน (ค่าไฟแพง)
    • Off-Peak: กลางคืน (ค่าไฟถูกกว่า)
  • เหมาะกับธุรกิจที่สามารถ “ย้ายเวลาการผลิต” หรือตั้งเครื่องจักรทำงานช่วงกลางคืน

วิธี “จ่ายค่าไฟถูกลง” อย่างยั่งยืน

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ไฟ

  • ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานเบอร์ 5
  • ปิดเครื่องใช้ไฟเมื่อไม่ใช้งาน
  • ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาขึ้นไป

2. ปรับเวลาใช้งานให้เหมาะกับ TOU

หากโรงงานหรือธุรกิจเลือกใช้ระบบ TOU ให้ย้ายการผลิตมาช่วง Off-Peak เช่น 22.00–09.00 น. จะช่วยลดค่าไฟได้เฉลี่ย 15–25%

3. ลงทุนพลังงานหมุนเวียน

  • Solar Rooftop: ลดการซื้อไฟช่วงกลางวัน
  • PPA กับผู้ผลิตพลังงานสะอาด: ซื้อไฟราคาคงที่ระยะยาว
  • Geothermal Energy: ใช้ผลิตไอน้ำหรือระบบทำความเย็นในโรงงานได้ตลอด 24 ชม.
    → ช่วยลดค่าไฟ + ลดคาร์บอนฟุตพรินต์พร้อมกัน

4. ตรวจสอบบิลไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

หลายองค์กรไม่รู้ว่าจ่าย “ค่า Demand Charge” เกินจริง (ค่าไฟตามกำลังใช้สูงสุด) ซึ่งสามารถปรับลดได้ด้วยระบบจัดการโหลดพลังงาน (Energy Management System)

การเลือก “พลังงานที่คุ้มค่า”

ประเภทพลังงานเหมาะกับใครจุดเด่นความคุ้มค่า
Solar Rooftopอาคาร, โรงงานผลิตไฟตอนกลางวันประหยัดค่าไฟสูงสุด 30%
Wind Powerพื้นที่ลมแรงใช้เสริมพลังงานอื่นต้นทุนต่ำเมื่อรวมระบบ Hybrid
Geothermal (พลังงานความร้อนใต้พิภพ)โรงงาน, นิคมใช้ได้ 24/7 ทั้งไฟฟ้าและไอน้ำลดคาร์บอนและค่าใช้จ่ายระยะยาว

สรุป


การ “จ่ายค่าไฟถูกลง” ไม่ได้มาจากการใช้ไฟให้น้อยลงเท่านั้น แต่คือการ เข้าใจระบบอัตราค่าไฟ และ เลือกใช้พลังงานที่คุ้มค่าและยั่งยืน

องค์กรที่ลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น Solar + Geothermal จะไม่เพียงลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว แต่ยังสร้างแต้ม ESG และความยั่งยืนให้ธุรกิจอีกด้วย