แนวโน้มราคาคาร์บอนเครดิต–REC และผลกระทบต่อ Capex/Opex ของโรงงานไทย

ในยุคที่โลกกำลังเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กลไกทางการเงินอย่าง คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และ ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่โรงงานและองค์กรต้องใช้เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะกับตลาดส่งออกที่ต้องเจอกับมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป

แนวโน้มราคาคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Price Trends)

ตลาดโลก: ราคาคาร์บอนเครดิตในตลาด Compliance (เช่น EU ETS) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เฉลี่ย 70–90 ยูโร/ตัน CO₂e ในปี 2024 และมีการคาดการณ์ว่าอาจแตะ 100 ยูโร/ตัน ภายในไม่กี่ปี

ตลาดไทย (T-VER): ราคาคาร์บอนเครดิตในประเทศยังค่อนข้างต่ำ (50–150 บาท/ตัน CO₂e) แต่แนวโน้มจะสูงขึ้นเมื่อมีการบังคับใช้ CBAM และกฎ ESG จากนักลงทุนต่างชาติ

  • ปัจจัยขับเคลื่อนราคา:
  • การเข้มงวดของกฎหมายสิ่งแวดล้อม
  • ความต้องการซื้อจากบริษัทใหญ่ (Scope 1, 2, 3 Emission)
  • ความนิยมของสินค้า Low Carbon

แนวโน้มราคา REC (Renewable Energy Certificate)

  • ตลาดโลก: REC เป็นใบรับรองว่าไฟฟ้าที่ใช้มาจากพลังงานสะอาด ราคาขึ้นกับ Supply & Demand ของพลังงานหมุนเวียน
  • เอเชียและไทย: คาดว่าราคาเฉลี่ย REC จะอยู่ที่ 60-70 บาทต่อหน่วย แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น หากสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าสะอาดกลายเป็น “เงื่อนไขการส่งออก”
  • ความแตกต่างจากคาร์บอนเครดิต: REC เน้นยืนยัน แหล่งไฟฟ้าสะอาด ส่วนคาร์บอนเครดิตใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ผลกระทบต่อ Capex ของโรงงานไทย (เงินลงทุน – Capital Expenditure)

  • ต้องลงทุนระบบพลังงานสะอาด: เช่น Solar Rooftop, Boiler Biomass, หรือ Geothermal Heat Pump
  • ลงทุนระบบวัดและรายงาน: Carbon Monitoring System / Energy Management System เพื่อยืนยันข้อมูลต่อผู้ซื้อหรือ CBAM
  • แนวโน้ม: Capex จะสูงขึ้นในระยะสั้น แต่ช่วยลดการพึ่งพาคาร์บอนเครดิตในอนาคต

ผลกระทบต่อ Opex ของโรงงานไทย (ต้นทุนดำเนินงาน – Operating Expenditure)

  • ต้นทุนพลังงาน: หากยังใช้ฟอสซิล Opex จะสูงขึ้นเพราะต้องซื้อคาร์บอนเครดิตจำนวนมาก
  • ต้นทุนการซื้อ REC: โรงงานที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดเอง ต้องซื้อ REC เสริมเพื่อยืนยันการใช้ Green Power
  • ต้นทุนที่ลดลงได้: หากลงทุนพลังงานสะอาดตั้งแต่ต้น Opex จะลดลงระยะยาว (ค่าไฟต่ำ + ลดภาระซื้อคาร์บอนเครดิต/REC)

กลยุทธ์โรงงานไทยควรทำ

  1. ลงทุนในพลังงานสะอาด: เช่น Solar + Geothermal + Biomass เพื่อให้ได้ไฟฟ้าและไอน้ำสะอาด
  2. ผสมผสาน Capex & Opex: วางแผนลงทุนระบบที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคต
  3. ทำ Carbon & Energy Roadmap: ตั้งเป้าลดคาร์บอนและวางเส้นทาง Net Zero
  4. สร้างรายได้เสริม: หากลดการปล่อยเกินเป้าหมาย สามารถขายคาร์บอนเครดิตหรือ REC ได้

สรุป

ราคาคาร์บอนเครดิตและ REC กำลังเป็น “ตัวกำหนดเกมการแข่งขันใหม่” ของโรงงานไทย โรงงานที่ปรับตัวช้าอาจเผชิญต้นทุน Capex และ Opex สูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้ที่ลงทุนล่วงหน้าใน ไฟฟ้าสีเขียว–ความร้อนจาก Geothermal–ระบบจัดการพลังงาน จะได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและภาพลักษณ์ในตลาดโลก