การเคลื่อนไหวครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของภาคเอกชนสหรัฐฯ ในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด 24/7 โดย Mastercard เลือกใช้ความร้อนใต้พิภพ (geothermal) เป็นพลังงานหลักสำหรับควบคุมอุณหภูมิอาคารหลักในเมืองเพอร์เชส รัฐนิวยอร์ก ช่วยลดภาระการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและยกระดับภาพลักษณ์องค์กรสีเขียว
เจาะ 160 หลุม ลึก 600 ฟุต รูปแบบระบบปิด (Closed-Loop) ให้ความร้อน-ความเย็นตลอดปี
โครงการขุดหลุมเจาะจำนวน 160 หลุม ลึกประมาณ 600 ฟุต (182 เมตร) โดยพลังงานที่ได้จากหลุมเจาะเหล่านี้จะถูกส่งไปยังระบบปั๊มความร้อนแบบวงจรปิดใต้พื้นดิน (closed-loop ground source heat pump) เพื่อถ่ายเทความร้อนส่วนเกินลงสู่ชั้นดินและดึงความร้อนกลับมาใช้ในฤดูหนาว ส่งผลให้อาคารได้รับพลังงานความร้อน-ความเย็นที่เสถียรโดยปราศจากการปล่อยคาร์บอน
แทนที่ก๊าซธรรมชาติ ลดการปล่อยคาร์บอนของอาคารที่ปล่อยสูงสุดของ Mastercard
ก่อนหน้านี้ ระบบทำความร้อนและปรับอากาศของสำนักงานใหญ่พึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก คิดเป็นมากกว่าครึ่งของการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดของไซต์ เมื่อโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพนี้เสร็จสิ้น เชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนนี้จะถูกตัดออกเกือบทั้งหมด ซึ่งช่วยลดต้นทุนคาร์บอนระยะยาว และทำให้อาคารสำนักงานใหญ่ของ Mastercardกลายเป็นต้นแบบการลดการปล่อยคาร์บอนในกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่
แรงขับสู่เป้าหมาย Net-Zero 2040: ทำไม Mastercard เลือก Geothermal
ในปี 2021 Mastercard เร่งไทม์ไลน์สู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) จากปี 2050 เหลือปี 2040 และบรรลุการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100 %การใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจะช่วยเติมช่องว่างด้านพลังงานความร้อน-ความเย็นที่พลังงานไฟฟ้าสะอาดไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด ทำให้องค์กรเข้าใกล้เป้าหมาย Net-Zero ด้วยแหล่งพลังงานที่จ่ายได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
ประโยชน์ระยะยาว: ค่าพลังงานเสถียร-คาดการณ์ได้ และความยืดหยุ่นต่อภาวะโลกร้อน
ระบบปั๊มความร้อนใต้พิภพมีอายุการใช้งานหลายสิบปี ต้นทุนพลังงานในอนาคตจึงเป็น “ค่าไฟคงที่” ที่ไม่ผันผวนตามราคาน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ ระบบยังช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฤดูร้อนที่ต้องการความเย็น และฤดูหนาวที่ต้องการความอบอุ่น
ต้นแบบองค์กรใหญ่ในสหรัฐฯ กับเทรนด์อาคารใช้พลังงานสะอาด 24/7
การตัดสินใจของ Mastercard ส่งสัญญาณให้ภาคอาคารเชิงพาณิชย์เห็นว่าระบบความร้อนใต้พิภพสามารถใช้งานได้จริงไม่เพียงลดคาร์บอนแต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นด้านพลังงาน ขณะที่รัฐนิวยอร์กและอีกหลายรัฐเริ่มออกแรงจูงใจด้านภาษีและเงินกู้สำหรับโครงการ geothermal แนวโน้มนี้จึงอาจขยายสู่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยี-การเงินรายอื่นในอนาคตอันใกล้
