แรงกดดันจาก มาตรการสิ่งแวดล้อมโลก เช่น CBAM ของสหภาพยุโรป และแนวทาง ESG ของนักลงทุน ทำให้อุตสาหกรรมไทยไม่อาจหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การวาง Roadmap ที่ชัดเจนไม่ใช่แค่เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังหมายถึงการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
Net Zero สำหรับโรงงานไทยคืออะไร?
- Net Zero หมายถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือน้อยที่สุด และชดเชยส่วนที่เหลือด้วยคาร์บอนเครดิตหรือการดูดซับคาร์บอน
- สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม Net Zero มักเกี่ยวข้องกับ 3 ด้านหลัก:
- ไฟฟ้า (Electricity)
- ความร้อน/ไอน้ำในกระบวนการผลิต (Heat & Steam)
- ซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ (Supply Chain & Logistics)
Roadmap ไฟฟ้าสีเขียว (Green Power Roadmap)
ระยะสั้น (1–3 ปี):
- ติดตั้ง Solar Rooftop บนพื้นที่โรงงาน
- ซื้อ I-REC หรือทำสัญญา PPA (Power Purchase Agreement) กับผู้ผลิตพลังงานสะอาด
- เก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและทำ Carbon Report
ระยะกลาง (3–5 ปี):
- ใช้ระบบ Smart Grid / Energy Management System เพื่อลดความสูญเสีย
- ลงทุน Battery Storage เพื่อกักเก็บพลังงานสะอาดใช้ในช่วง Peak
ระยะยาว (5–10 ปี):
- พิจารณาการลงทุน พลังงานสะอาดขนาดใหญ่ เช่น Solar Farm ร่วมกับภาคี
- ใช้ EV Logistics สำหรับการขนส่งสินค้าเพื่อลด Scope 3 Emission
Roadmap ความร้อนจากพลังงานใต้พิภพ (Geothermal Heat Roadmap)
- ระยะสั้น: ศึกษาความเป็นไปได้ทางธรณีวิทยาในพื้นที่โรงงาน/ภาคอุตสาหกรรม
- ระยะกลาง: ลงทุนระบบ Geothermal Heat Pump สำหรับอาคารสำนักงาน หรือ Geothermal Steam สำหรับโรงงานที่ต้องการไอน้ำต่อเนื่อง เช่น อาหาร เครื่องดื่ม สิ่งทอ
- ระยะยาว: ขยายไปสู่ District Heating/Cooling ที่ใช้ร่วมกันหลายโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม
ข้อดีของ Geothermal สำหรับโรงงาน:
- ผลิต ความร้อนและไอน้ำสะอาด 24/7 ไม่ขึ้นกับแดดหรือลม
- ลดต้นทุนเชื้อเพลิงระยะยาว
- เสริมความมั่นคงด้านพลังงานของโรงงาน
ทำอย่างไรให้คุ้มทุน?
- คำนวณ ROI + Payback Period: พลังงานสะอาดมักมีต้นทุนเริ่มต้นสูงแต่หากมองในระยะยาวแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ซึ่ง Payback Period มักอยู่ในช่วง 4–10 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดโครงการ เทคโนโลยี และค่าพลังงาน รวมถึงเงื่อนไขการสนับสนุนจากรัฐ
- ใช้มาตรการสนับสนุนจากรัฐ: เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, BOI, สิทธิประโยชน์ภาษีสำหรับการลงทุนพลังงานสะอาด
- ขายคาร์บอนเครดิต: หากปล่อยคาร์บอนต่ำกว่ามาตรฐาน สามารถขายคาร์บอนเครดิตผ่านตลาด T-VER เพื่อสร้างรายได้เสริม
- สร้างจุดขายทางการตลาด: แบรนด์สามารถใช้ “สินค้า Net Zero” เป็นจุดแข็งแข่งขันกับคู่ค้าระดับโลก
สรุป
การเดินสู่ Net Zero สำหรับโรงงานไทยไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หากมี Roadmap ชัดเจน โดยเริ่มจากไฟฟ้าสีเขียวที่เข้าถึงได้ง่าย ควบคู่กับการลงทุนด้าน ความร้อนจาก Geothermal ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิต โรงงานที่วางแผนล่วงหน้าและลงทุนอย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแค่คุ้มทุนในระยะยาว แต่ยังได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดโลกที่กำลังเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ