พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นในทศวรรษนี้กำลังพลิกโฉมให้แหล่งพลังงานใต้ดินกลายเป็นแหล่งไฟฟ้าและความร้อนที่สะอาด เสถียร และกระจายได้กว้างกว่าเดิมอย่างมาก
ทำไม Geothermal พลังงานความร้อนใต้พิภพ รุ่นใหม่ถึงน่าจับตา?
เดิมทีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพต้องอาศัยพื้นที่ที่มีน้ำร้อนหรือไอน้ำตามธรรมชาติผุดขึ้นมาใกล้ผิวโลก เช่น ไอซ์แลนด์หรือญี่ปุ่น พื้นที่แบบนี้มีจำกัด แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Enhanced Geothermal Systems (EGS) และ Advanced/Closed‑Loop Geothermal Systems (AGS) ใช้การเจาะลึกและกระบวนการหมุนเวียนของเหลวสังเคราะห์เข้าไปในชั้นหินร้อน ทำให้แทบทุกภูมิภาคที่มีอุณหภูมิชั้นหินสูงเพียงพอสามารถผลิตไฟฟ้าได้
- EGS: เจาะหลุมคู่ สร้างรอยแตก (fractures) ในชั้นหินร้อน แล้วปั๊มน้ำฉีดเข้าไปให้ร้อนขึ้น จากนั้นนำน้ำร้อนกลับขึ้นมาปั่นกังหันผลิตไฟฟ้า
- AGS / Closed‑Loop: ใช้ท่อปิดผนึกไหลเวียนของเหลวหมุนเวียนภายใน ไม่สัมผัสน้ำใต้ดินโดยตรง ลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและแผ่นดินไหวขนาดเล็ก
อีกก้าวที่น่าตื่นเต้นคือ Supercritical Geothermal การเจาะทะลุเขตที่น้ำกลายเป็นภาวะก้ำกึ่งระหว่างของเหลวและไอ (supercritical) ซึ่งเก็บพลังงานความร้อนได้หนาแน่นกว่าปกติ 4‑5 เท่า จึงผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากหลุมน้อยลง
โอกาสใหม่ ๆ นอกเหนือจากไฟฟ้า
- ระบบความร้อนกระจายศูนย์ (District Heating): ใช้น้ำร้อนจาก AGS ป้อนความร้อนให้โรงงานหรือชุมชน ลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ
- การสกัดลิเธียมจากน้ำเกลือร้อน: หลุม geothermal บางแห่งมีลิเธียมละลายอยู่ เทคโนโลยี Direct‑Lithium Extraction สามารถแยกออกมาเป็นวัตถุดิบแบตเตอรี่ ช่วยเสริมความคุ้มค่าของโครงการ
แล้วธุรกิจไทยจะได้ประโยชน์อย่างไร?
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นเขตภูเขาไฟ แต่ชั้นหินลึกบางแห่งยังมีอุณหภูมิสูงพอสำหรับ EGS หรือAGS แบบระบบปิด ซึ่งต้องอาศัยการสำรวจเชิงธรณีวิทยาอย่างละเอียด หากรัฐออกนโยบายสนับสนุนความร้อนใต้ดินและจับคู่กับตลาดลิเธียมในอนาคต โครงการ geothermal รุ่นใหม่อาจกลายเป็นอีกเสาหลักด้านพลังงานสะอาดของประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น Geothermal ให้พลังงาน Basel‑Load หรือกำลังผลิตคงที่ 24 ชั่วโมง ต่างจากแสงอาทิตย์หรือลมที่ผันผวน จึงช่วยเสริมเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี
ก้าวต่อไป
การบ่มเพาะบุคลากรด้านธรณีฟิสิกส์ การเงินสีเขียว และการขุดเจาะ จะเป็นหัวใจในการผลักดันให้ Geothermal Systems กลายเป็นหัวใจสำคัญในพอร์ตพลังงานสะอาดของไทย ภาคเอกชนที่ต้องการพลังงานสะอาดแบบเสถียรในต้นทุนคงที่ระยะยาว จึงควรเริ่มมองหาโอกาสพันธมิตรด้านเทคโนโลยีนี้ไว้ตั้งแต่วันนี้