สหภาพยุโรป (EU) เริ่มบังคับใช้มาตรการ CBAM – Carbon Border Adjustment Mechanism ซึ่งกำหนดให้สินค้านำเข้าต้องสะท้อนต้นทุนคาร์บอนเทียบเท่ากับผู้ผลิตในยุโรป นั่นหมายความว่าโรงงานไทยที่ส่งออกสินค้ากลุ่ม เหล็ก อะลูมิเนียม ปูนซีเมนต์ ปุ๋ย ไฮโดรเจน และไฟฟ้า จะต้องแสดงรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างละเอียด และจ่ายค่า CBAM Certificate หากการผลิตปล่อยคาร์บอนสูง
ไฟฟ้าสีเขียว: คำตอบสำคัญของผู้ส่งออก
หนึ่งในต้นเหตุการปล่อยคาร์บอนของโรงงานคือ ไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิต หากยังพึ่งพาไฟฟ้าจากก๊าซและถ่านหิน ต้นทุน CBAM จะสูงขึ้นตามสัดส่วน แต่ถ้าโรงงานเปลี่ยนมาใช้ ไฟฟ้าสีเขียว (Green Power) จะช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ฟุตพรินต์และต้นทุนได้ทันที
รูปแบบไฟฟ้าสีเขียวที่โรงงานไทยเข้าถึงได้:
- Solar Rooftop/Farm: ผลิตไฟฟ้าใช้เองหรือติดตั้งร่วมกับพันธมิตร
- PPA (Power Purchase Agreement): ทำสัญญาซื้อไฟฟ้าสะอาดจากผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน
- I-REC (International REC): ซื้อใบรับรองพลังงานหมุนเวียน เพื่อยืนยันการใช้ไฟฟ้าสีเขียว
- Geothermal & Biomass: ทางเลือกเสริมที่ช่วยสร้างพลังงานเสถียรและลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน
ผลดีที่ได้จากการใช้ไฟฟ้าสีเขียว
- ลดค่าใช้จ่าย CBAM: คาร์บอนฟุตพริ้นท์ฟุตพรินต์ที่ต่ำลง ช่วยให้จ่ายค่า CBAM Certificates น้อยลง
- แข่งขันได้ในตลาดโลก: ลูกค้าในยุโรปและประเทศพัฒนาแล้วมักเลือกผู้ผลิตที่ใช้พลังงานสะอาด
- ตอบโจทย์ ESG: สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้บริโภค
- สร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต: หากลดคาร์บอนได้มากกว่าเป้าหมาย สามารถขายคาร์บอนเครดิตหรือลดต้นทุนในอนาคต
Roadmap สำหรับโรงงานส่งออกไทย
- ตรวจสอบการใช้พลังงานปัจจุบัน: เก็บข้อมูลการปล่อยคาร์บอน Scope 2 (ไฟฟ้าที่ซื้อใช้)
- วางแผนสัดส่วน Green Power: เริ่มจาก 20–30% ของพลังงานทั้งหมด แล้วขยายต่อเนื่อง
- ลงทุนหรือทำสัญญา PPA: เพื่อการันตีไฟฟ้าสะอาดระยะยาวในราคาคงที่
- ทำรายงานคาร์บอน (Carbon Report): จัดทำตามมาตรฐาน CBAM เพื่อนำส่งให้คู่ค้า
- ตั้งเป้า Net Zero ระยะยาว: เชื่อมไฟฟ้าสีเขียวเข้ากับกลยุทธ์ Net Zero ขององค์กร
สรุป
CBAM คือความท้าทายใหม่ของผู้ส่งออกไทย แต่ก็เป็นโอกาสในการเร่งปรับตัวสู่ โรงงานพลังงานสะอาด การใช้ไฟฟ้าสีเขียวไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ แต่ยังสร้างความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนในตลาดโลก โรงงานที่ปรับตัวก่อนย่อมได้เปรียบในสมรภูมิการค้าโลกยุคคาร์บอนต่ำ