Data Center กับพลังงานความร้อนใต้พิภพ: ทางออกพลังงานสะอาด 24/7 สำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย

Data Center กับพลังงานความร้อนใต้พิภพ

การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งผลให้ความต้องการศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังไฟฟ้าที่ศูนย์ข้อมูลใช้มีแนวโน้มแตะ 400 MW ภายในปี 2025(bangkokpost.com) ขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกต่างต้องการพลังงานสะอาด 24 ชั่วโมงต่อวัน (24/7 Carbon-Free Energy) เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net‑Zero ทำให้ “พลังงานความร้อนใต้พิภพ” (Geothermal Energy) กลายเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าฐานโหลดได้ตลอดทั้งวันและปล่อยคาร์บอนต่ำกว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่น 

ภาพรวมตลาด Data Center ไทย

ปัจจัย

สถานะปัจจุบัน

กำลังติดตั้ง (2024)

357 MW และจะเกิน 400 MW ปลาย 2025 (bangkokpost.com)

อัตราเติบโต (CAGR)

10 – 12 % ต่อปี (datacenterknowledge.com)

ความท้าทาย

ราคาพลังงาน, Carbon Footprint, ความมั่นคงไฟฟ้า

 

ทำไม Data Center ต้องการพลังงานความร้อนใต้พิภพ 24/7 CFE

Geothermal energy ตอบโจทย์ศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ที่ต้องการไฟฟ้าสะอาดต่อเนื่องทั้งวัน (24/7 Carbon‑Free Energy) และเป็นจุดขายสำคัญที่ Google, AWS และ Microsoft ใช้คัดเลือกทำเลศูนย์ข้อมูลใหม่ทั่วโลก เพราะช่วยสร้าง “Competitive Advantage” ด้านต้นทุนและความยั่งยืนเหนือคู่แข่ง

  1. Sustainable & Clean Energy
    ปล่อยคาร์บอนต่ำที่สุดในบรรดาพลังงานหมุนเวียน พร้อมรับเกณฑ์ ESG และ Net‑Zero ของลูกค้าระดับโลก
  2. Reliable Power Source
    ผลิตไฟฟ้าฐานโหลดได้ 24 ชม. ลดความเสี่ยง Downtime ที่อาจสร้างค่าเสียหายนาทีละหลายแสนบาท
  3. Efficient Cooling
    น้ำร้อน/อุ่นที่ได้จากพลังงานความร้อนใต้พิภพ สามารถช่วย ลดภาระระบบทำความเย็นของเซิร์ฟเวอร์
  4. Cost Savings
    ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง จึงคาดการณ์ค่าไฟระยะยาวได้แม่นยำ และมักถูกกว่า LNG เมื่อเซ็น PPA ระยะ 15–20 ปี
  5. Energy Independence
    ผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ ลดข้อจำกัดสายส่งและความผันผวนราคาพลังงานโลก
  6. Enhanced Sustainability Reputation
    ศูนย์ข้อมูลที่ใช้ Geothermal 24/7 CFE ได้ใบรับรอง Green DC และดึงดูดลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคาร์บอนต่ำ
  7. Lower Operating Costs Over Time
    ระบบปิด (Closed‑loop) มีส่วนเคลื่อนไหวน้อย ทำให้ค่า O&M ต่อหน่วยไฟฟ้าต่ำกว่ากังหันก๊าซและโซลาร์ + แบตเตอรี่

พลังงานความร้อนใต้พิภพ: คุณสมบัติที่ตรงโจทย์

คุณสมบัติ

ลม

แสงอาทิตย์

ความร้อนใต้พิภพ

ความต่อเนื่อง

ผันผวนตามลม

มีเฉพาะกลางวัน

24 ชม.

การใช้ที่ดิน

ปานกลาง

สูง

ต่ำ

การปล่อย CO₂

ต่ำ

ต่ำ

ต่ำ


ด้วย “โหลดคงที่ + คาร์บอนต่ำ” พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) จึงเป็นพลังงานหมุนเวียนชนิดเดียวที่ตอบโจทย์ 24/7 CFE โดยไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่เก็บไฟขนาดใหญ่ 

กรณีศึกษาโลก: Google × Geothermal

  • Google Taiwan PPA 10 MW (เม.ย. 2025) ถือเป็นข้อตกลงซื้อไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพครั้งแรกของบริษัทในเอเชีย (techcrunch.com, blog.google, reccessary.com

เทคโนโลยีที่เหมาะกับไทย

อย่างไรก็ตาม GeoAgni มุ่งเน้น Closed-loop ที่จะตอบโจทย์พื้นที่ส่วนใหญ่ของไทย ซึ่งมีอุณหภูมิใต้ดินต่ำ-ปานกลาง แต่อาจมีกรณีที่ใช้เทคนิคอื่น เช่น conventional , EGS ได้ หากพื้นที่นั้นเหมาะสมกับเทคนิคนั้นๆ มากกว่า

 

สรุป

การผสาน Data Center กับพลังงานความร้อนใต้พิภพคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลสีเขียวแห่งอาเซียน ไม่เพียงรองรับความต้องการไฟฟ้า 24 ชั่วโมงของเศรษฐกิจข้อมูล แต่ยังช่วยลดคาร์บอน สร้างงาน และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดดิจิทัลโลก